สกุล สื่อทรงธรรม
ในการตั้งรับการรุกคืบของความเจริญทางเทคโนโลยี องค์กรที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ของผู้ใช้แรงงาน คือ ยูเอ็นไอ หรือ Union Network International นั้น ได้เห็นความจำเป็นที่จะต้องรวบรวมกิจการเหล่านี้เข้าในร่มขององค์กร ที่มีการพูดถึงเป็นเบื้องต้นคือ คือ
- กิจการให้บริการข่าวสาร การคมนาคมยุคใหม่ และกิจการให้บริการสารสนเทศโดยใช้อินเตอร์เน็ต
- กิจการให้บริการสื่อหลากหลาย(Multimedia) สื่อสารเพื่อการบริการข่าวสารและการบันเทิง กิจการด้านกราฟิค และเทคโนโลยีสารสนเทศ
- กิจการให้บริการทางการเงิน การค้าขาย ไปรษณีย์ เสริมสวยและดูแลผม การท่องเที่ยว
- กิจการรับเหมาช่วง เช่น การให้บริการดูแลงานในอาคาร บริการธุรการต่าง ๆ เป็นต้น
ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ค่านิยมขององค์กรที่จะต้อง “ทำงานเพื่อประชาชน” ให้มีความชัดเจน เพราะบรรษัทและองค์กรธุรกิจได้หันมาเน้นกิจกรรมเพื่อสังคมหรือซีเอสอาร์มากขึ้น
ยูเอ็นไอจะต้องสามารถจัดตั้งบริการพื้นฐานเพื่อสมาชิกดังต่อไปนี้
- การให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว ถูกต้อง และสำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กร
- การพัฒนาองค์การสหภาพแรงงานทั้งด้านความรู้และขยายฐานสมาชิก พร้อม ๆ กับการเน้นความสามัคคีเป็นปึกแผ่นของมวลสมาชิก
- การบริหารงานจะมีการครอบคลุมในลักษณะข้ามชาติข้ามทวีปมากขึ้น
- การให้บริการในลักษณะภาคอุตสาหกรรม (sectoral services) ที่มีความชัดเจน เช่น อุตสาหกรรมบริการ จะครอบคลุมถึงบริการทางการเงิน การค้าปลีก การประกัน และการคมนาคม อุตสาหกรรมการผลิต เช่น คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน รถยนต์และยานพาหนะขับเคลื่อน อุตสาหกรรมการบันเทิงและสื่อสาร เช่น การท่องเที่ยว การไปรษณีย์ ลอจิสติกส์ ภาพยนต์และการแสดง เป็นต้น
- การส่งเสริมกลุ่มแรงงานระดับจัดการและนักวิชาชีพ (inter-professional groups) หมายถึงการส่งเสริมให้มีการรวมตัวกันของแรงงานเยาวชน สตรี นักบริหารในองค์กรและนักวิชาชีพ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ จัดตั้งและเข้าร่วมในองค์กรมากขึ้น
ประตูที่จะเปิดไปสู่ความสำเร็จข้างต้นคือการเปิดประตูในระดับโลก (global gateway) โดยดูจากการจัดระบบสื่อสารขององค์กรตามร่างแผนภูมิดังนี้
ทั้งนี้ การจัดระดับปฏิบัติการทางการบริหารจำเป็นต้องมีความชัดเจนตั้งแต่แรก มิฉะนั้นอาจมีการจัดกิจกรรมซ้ำซ้อนได้ โดยแบ่งเป็นระดับภูมิภาค ระบบภาคอุตสาหกรรม ดังนี้
ระดับภูมิภาค การขับเคลื่อนประกอบด้วยกลุ่มบุคคลหรือบุคคลตามกิจกรรมหลักดังนี้
- การประชุมระดับภูมิภาค ปรกติกำหนดให้มีขึ้นทุกสี่ปี ตามวาระการดำรงตำแหน่ง
- การประชุมคณะกรรมการบริหารระดับภูมิภาค กำหนดปีละครั้ง จัดหมุนเวียนไปในประเทศที่เป็นสมาชิก หรือที่สำนักงานเลขาธิการประจำภูมิภาค
- สำนักงานเลขาธิการประจำภูมิภาค
- การประชุมกิจการสาขาอาชีพ จัดขึ้นทุกสองปี และมักจะถูกนำมาผนวกไว้ในการประชุมของ ข้อ ก. หรือ ข. เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ระดับภาคอุตสาหกรรม จะมีกิจกรรมที่เกิดขึ้นในการประชุมที่อาจจัดแยกเป็นการเฉพาะ หรือนำมากำหนดในแผนงานประจำปีที่มีความยืดหยุ่นในเรื่องการจัดการประชุมที่รวมเอาการประชุมที่ต้องมีการตัดสินใจเข้าไว้ด้วย
- การประชุมคณะกรรมการบริหารระดับโลก
- การประชุมระดับภาคอุตสาหกรรมรวมหลายภูมิภาคเข้าด้วยกัน
- การให้บริการสมาชิกจากระดับภาคอุตสาหกรรม
- การมีอำนาจตัดสินใจในระดับภาคอุตสาหกรรม
ตามโร้ดแม็ปที่จะมุ่งสู่การรวมตัวเป็นองค์กรใหม่ที่ใหญ่ขึ้น จึงมีขั้นตอนดังนี้
- ขั้นตอนระยะเปลี่ยนผ่าน
- ขั้นตอนจัดองค์กรเข้าหากันเพื่อพร้อมควบรวม
- ขั้นตอนสู่เป้าหมาย จัดตั้งสำนักงานให้สำเร็จภายในปี ค.ศ. 2000 ประชุมใหญ่ระดับโลก (World Congress) ค.ศ. 2001
- แสวงหาความร่วมมือจากสหพันธ์แรงงานสาขาอาชีพต่าง ๆ
ขั้นตอนระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นระยะที่มีความละเอียดอ่อนที่สุด จึงมีการกำหนดให้มีตำแหน่งเบื้องต้นในองค์กรใหม่ดังนี้
- มีคณะกรรมการบริหารร่วมกัน 4 ชุด ไปจนถึงปี ค.ศ. 2001
- มีประธานและเลขาธิการร่วมกัน
- ในปี ค.ศ. 2001 จะต้องมีการเลือกตั้งประธาน และเลขาธิการ ระดับโลก
- ในปี ค.ศ. 2002 รวมสำนักงานภูมิภาคของแต่ละสาขาอาชีพเข้าด้วยกันเป็นสำนักงานเดียว
ในการประชุมระดับภูมิภาคของอาโปรเฟียตครั้งนี้ ยังมีความสำคัญที่ควรบันทึกไว้ด้วยอีกเรื่องหนึ่ง คือ เพื่อลดภาระของสมาชิกที่ต้องชำระค่าบำรุงตามข้อบังคับ คณะกรรมการบริหารมีมติให้สำนักงานแจ้งสมาชิกในบางประเทศที่ประสบภาวะวิกฤติทางการเงินของประเทศ ให้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2540
////////////////////////////////////