เมื่อวันที่ 31 มีนาคม กรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และองค์กรภาคประชาสังคม ได้ยื่นหนังสือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ….. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เสนอเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และองค์กรภาคประชาสังคมที่ลงนามท้ายหนังสือฉบับนี้ ขอคัดค้านการเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ…..ด้วย เหตุผลดังนี้
1. กระบวนการเสนอร่างกฎหมายขัดต่อมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งบัญญัติให้ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ รัฐพึงจัด ให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ โดยจะต้องนำมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน รวมถึงขั้นตอนก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ
2. คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้โดยใช้กฎหมายต่างประเทศที่มีเนื้อหาละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ประชาชนอย่างร้ายแรง ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีการปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการ หรือเป็นประเทศที่มิได้มีการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย มาเป็นแนวทางในการยกร่าง
3. ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีเนื้อหาขัดกับสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ จำกัดสิทธิเสรีภาพ ขัดหลักนิติธรรม และไม่เป็นไปตามหลัก “ความจำเป็น ความสมเหตุสมผล” และสัดส่วน” ตามมาตรา 26 และเป็นการจำกัดเสรีภาพ การรวมตัวกันตามมาตรา 42 ขัดสิทธิความเป็นส่วนตัวตามมาตรา 32 และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันตามมาตรา 36 อันจะเป็นการสร้างผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงานสาธารณะขององค์กรภาคประชาสังคม องค์กรชุมชน หรือ องค์กรที่ไม่แสวงหารายหรือกำไรมาแบ่งปันกัน อีกทั้งเป็นการกำหนดโทษ
ทางอาญาที่ไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำ ความผิดเพียงเพราะไม่จดแจ้งกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และองค์กรภาคประชาสังคมที่ร่วมลงชื่อ 250 องค์กร เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมีบัญชาสั่งให้ยกเลิกกระบวนการร่างและเสนอพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานของ องค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ…..นี้โดยทันที