อารมณ์ พงศ์พงัน (2) การก้าวสู่บทบาทผู้นำแรงงาน

ด้วยความเป็นนักคิดนักเขียนของคุณอารมณ์ จึงรับเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ในสหภาพแรงงานฯ และเป็นบรรณาธิการหนังสือวารสาร ถังสูง ของสหภาพแรงงานการประปานครหลวง โดยรับภาระในการเขียนข้อเขียนต่างแทบจะคนเดียว และได้เขียนบทกลอน ลงฉบับแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2518 ซึ่งคุณกมล สุสำเภา ได้เคยใส่ทำนองเป็นเพลงร้อง ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

หยาดเหงื่อกูหลั่งไหล แรงกูไม่เคยหมดสิ้น
ถือเสียมเตรียมแทงดิน เพื่อสร้างถิ่นสังคมไทย
คำน้อยร้อยคำร้อง ท่านมิปองจะลองไข
ทุกข์ทนก็จนใจ เพราะซึ้งในนโยบาย
แต่กูต้องกราบกราน เพื่อซื้องานที่ท่านขาย
ให้กินสิ้นแรงกาย ซังกะตายไร้ศักดิ์คน
มิแบ่งแต่หน้าที่ โอ้อัปรีย์แสนปี้ป่น
เหยียดหยามความเป็นคน ว่าต่ำล้นล้วนเลวทราม
สักวันกูจะหยุด เลิกขุดดินกินคำหยาม
ถือค้อนต้อนประณาม ความกาลีที่แบ่งคน

ในปีเดียวกันได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานกลุ่มสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย โดยมีคุณไพศาล ธวัชชัยนันท์ เป็นประธาน

ด้วยจิตใจที่รักชาติ รักประชาธิปไตย และรักความเป็นธรรม ความไม่คุ้นต่อประชาธิปไตยในสังคมไทย กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องมีความรุนแรงขึ้นโดยลำดับ ด้วยความที่เป็นผู้นำ และความเป็นคนที่มีเหตุผล ทำให้อารมณ์ได้รับการยอมรับจากกลุ่มสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย และ บทบาทที่โดดเด่นของ อารมณ์ สร้างให้เกิดการยอมรับทั้งภายในองค์กร และภายนอกองค์กร เช่นการเข้าไปช่วยเหลือ เรื่องของกรรมกรฮาร่า ที่ชุมนุมปิดโรงงานมานาน และอำนาจรัฐมีท่าทีที่ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อกรรมกร ที่สุดอารมณ์ได้รับเลือกให้เป็น คณะอนุญาโตตุลาการฝ่ายกรรมกรชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน หาทางออกให้กับผู้ใช้แรงงานอย่างชาญฉลาด และเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายแรงงานให้แก่ลูกจ้างหลายโรงงาน
บทบาทคุณอารมณ์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในสังคม ในเวลาไม่กี่เดือน กระทั้งแวดวงเกษตรกร ปี 2519 คุณอารมณ์ได้รับเลือกเป็นกรรมการพิสูจน์อัตราแปรสภาพข้าวเปลือก เป็นข้าวสาร โดยร่วมกับรัฐบาล นิสิตนักศึกษา และผู้ประกอบการโรงสี

เนื่องจากรัฐบาลชุดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ตัดสินใจที่จะเลิกจำหน่ายข้าวสารราคาถูก โดยอ้างว่า เพื่อผลักดันราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้น กลุ่มสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย จึงคัดค้านการเลิกจำหน่ายข้าวสารราคาถูกของรัฐบาล เพราะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจคนยากจน ผู้ใช้แรงงานเดือดร้อนอยู่แล้ว การยกเลิกการขายข้าวสารราคาถูกไม่ได้เพื่อช่วยเหลือชาวนาตามที่รัฐบาลอ้าง เพราะรัฐไม่สามารถที่จะควบคุมให้พ่อค้าคนกลาง เช่นโรงสีให้ซื้อข้าวเปลือกตามที่ประกันราคาได้ ทั้งนี้รัฐบาลต้องการที่จะช่วยเหลือพ่อค้าส่งข้าวออกนอกมากกว่า กลุ่มสหภาพแรงงานนำโดยนาย ไพศาล ธวัชชัยนันท์ ได้เรียกประชุมสหภาพแรงงานทั่วประเทศ และลงมติให้ดำเนินการนัดหยุดงานทั่วประเทศในวันที่ 2 มกราคม 2519 ทันที

ด้วยท่าทีการแสดงออกที่แข็งกร้าว ได้ส่งผลสะเทือนแก่รัฐบาลทำให้รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรี ให้ขยายความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แม้ว่าโครงการของรัฐบาลจะดูเหมือนก้าวหน้าในระดับหนึ่ง แต่กลุ่มสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย ได้เรียกประชุมสหภาพแรงงานอีกครั้ง และลงมติให้เคลื่อนขบวนกรรมกร ออกนอกสถานที่ มาชุมนุมที่ลานพระรูปทรงม้า ในวันที่ 4 มกราคม 2519 ได้เข้าเจรจากับรัฐบาลในคืนนั้น ซึ่งทางกลุ่มสหภาพแรงงานฯได้ลดความตึงเครียดเสนอให้รัฐบาลจัดให้มีข้าวสารราคาถูกขายต่อไป พร้อมทั้งแต่งตั้งกรรมการพิสูจน์อัตราการแปรสภาพข้าวเปลือก เป็นข้าวสาร

ในเดือนมิถุนายน อารมณ์ ได้รับการคัดเลือกให้เดินทางไปประชุมองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ในฐานะผู้แทนจากฝ่ายกรรมกร และรัฐบาลเยอรมันเชิญไปดูงานในประเทศเยอรมันครึ่งเดือน

ข้อเขียนของคุณอารมณ์ที่บันทึกในหนังสือกรรมกร ถึงจุดอ่อนของขบวนกรรมกรไทยว่า จากความเกลียดชัง และต่อต้านอำนาจเผด็จการทุกรูปแบบอย่างจริงจัง เมื่อองค์กรจัดตั้งของกรรมกรได้รับการจัดตั้งขึ้นมาตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ปี 2518 แล้ว ความเห็นแก่ประโยชน์เล็กๆน้อยๆ ของผู้นำกรรมกรบางคน ได้ทำให้เกิดจุดอ่อนขึ้นภายในสภาแรงงานแห่งประเทศไทย (กลุ่มสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย)

ความประสงค์ของบรรดาผู้นำกรรมกรขายตัว เข้ามาทำลายความสามัคคีภายในหมู่กรรมกรระดับสูง โดยอาศัยความเกลียดชังระบอบคอมมิวนิสต์ที่มีอยู่ในระบอบแรงงานเสรี เข้ามาทำลายเจตนารมณ์ที่คัดค้านระบอบการปกครองแบบเผด็จการภายในสภาแรงงานแห่งประเทศไทยให้พังทลายลงไป เพื่อเปิดโอกาสให้ระบอบการปกครองแบบเผด็จการฟัสซิสต์เข้ามามีอำนาจ ความประสงค์ของบรรดากรรมกรขายตัวเหล่านี้ ก็เป็นผลสำเร็จหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เช่นการเข้ามาแทรกแซง การปลุกระดมให้เกิดความหลุ่มหลงในลัทธิคลั่งชาติ เกลียดชังคอมมิวนิสต์แล้ว กล่าวหาว่าผู้นำกรรมกรมีความเป็นคอมมิวนิสต์

จุดอ่อนของสภาแรงงานแห่งประเทศไทยก็คือ การปล่อยให้บรรดาผู้นำกรรมกรประเภทขายตัว และเป็นนักฉวยโอกาส เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวมีอิทธิพลภายในสูงมากเกินไป ตัวอย่างเช่น การใส่ร้ายป้ายสีนี้เกิดขึ้นในสภาแรงงานแห่งประเทศไทย กำลังดำเนินการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ วันที่ 1 พฤษภาคม 2518 ที่สวนลุมพินี ผู้ที่ใช้นามปากกาว่ากระแช่ ได้เขียนในคอลัมน์ข่าวสังคมของหนังสือพิมพ์ดาวสยามฉบับวันที่ 8 มีนาคม 2519 ว่า “อารมณ์ พงศ์พงัน จะจัดงานฉลองวันชาติรัสเซียขึ้นที่สวนลุมพินีในวันที่ 1 พฤษภาคม 2519” เป็นผลสะเทือนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง ในรูปของการถอยหลังเข้าคลองมากยิ่งขึ้น ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และทางสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ได้ถูกคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินออกคำสั่งยุบเลิกในเวลาต่อมาอีกไม่กี่วัน ถือว่าเป็นการปิดฉากระบบสหภาพแรงงานตามลัทธิสหภาพแรงงานเสรีไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในขณะที่รัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียรขึ้นมาบริหารประเทศ แม้ว่าจะไม่ได้ยกเลิกกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ปี 2518 เสียทั้งหมด