สสส. แถลง การเคารพสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองในการจัดจ้างรับสมัครบุคคลเข้าทำงาน

แถลงการณ์สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)

เรื่อง การเคารพสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองในการจัดจ้างรับสมัครบุคคลเข้าทำงาน

                ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในเวลานี้ จากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันของประชาชนฝ่ายต่างๆ อันเป็นผลสืบเนื่องจากการรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2557 สืบมาจนถึงปัจจุบัน  โดยที่ได้มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนรวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันท์โอชา และยกระดับสู่การมีข้อเรียกร้องเพื่อการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ได้เกิดสิ่งที่ทางสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มีความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งนั้นได้ลามมาสู่สถานการณ์ด้านสิทธิแรงงาน ด้วยมีปรากฏข้อมูลข่าวสารว่า สถานประกอบการเอกชนบางแห่ง  เริ่มมีการออกเอกสารใบรับสมัครงาน โดยที่มีการขอข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์(Social Media)ส่วนบุคคลของผู้ที่สมัครงาน  สถานประกอบการบางแห่งมีการให้ผู้สมัครงานกรอกข้อมูลเรื่องทัศนคติทางสังคม การเมือง มีการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ทำการตรวจสอบข้อมูลการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของบุคคลที่จะรับเข้ามาทำงาน โดยมีทัศนคติที่เป็นลบต่อบุคคลผู้สมัครงานที่มีการแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง

ทั้งนี้ สสส. เห็นว่าแนวนโยบายด้านทรัพยากรมนุษย์ดังที่กล่าวมานี้ จะเข้าข่ายการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนตาม กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง. International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR)  กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights – CESCR)  หลักการทั่วไปและแนวทางปฏิบัติการเพื่อการจัดหางานที่เป็นธรรม (General principles and operational guidelines for fair recruitment)  และรวมถึงขัดต่อหลักการชี้นำของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) ด้วยเป็นการนำเหตุแห่งความแตกต่างทางด้านทัศนคติทางการเมืองมาทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นการขัดต่อหลักการที่ระบุว่าการจ้างงานนั้นจะต้องอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชนที่มีระบุไว้อยุ่ทั้งปวง

สสส. จึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1) รัฐบาลจะต้องไม่สนับสนุน ยอมรับ  หรือกระทำการที่ทำให้เชื่อได้ว่า รัฐบาลมองว่ามาตรการการจ้างงานแบบนี้เป็นโอกาสของรัฐบาลที่จะจัดการตอบโต้กับประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง

2) กระทรวงแรงงาน จะต้องเปิดรับข้อร้องเรียนจากประชาชนเรื่องสถานประกอบการที่ละเมิดรุกล้ำข้อมูลและทัศนคติส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน และมีมาตรการในการควบคุมไม่ให้สถานประกอบการต่างๆกระทำการใดๆที่ละเมิดต่อเสรีภาพทางความคิดเห็น สิทธิทางการเมืองของแรงงานและผู้สมัครเข้าทำงาน

3) รัฐสภา ควรดำเนินการอย่างจริงจัง ที่จะให้มีกฎหมายรองรับสิทธิทางการเมืองของแรงงาน และรวมไปถึงให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายแก่ลูกจ้าง ไม่ให้ถูกนายจ้างก้าวล่วงความเป็นส่วนบุคคลบนพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ของตนเอง

สสส. เชื่อมั่นว่า หากรัฐสามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องเหล่านี้ได้ นอกจากจะส่งผลให้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยในสายตาประชาคมโลกดีขึ้นแล้ว  นี่ยังเป็นแนวทางหนึ่งในการลดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอันจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลอีกด้วย