กระทรวงแรงงาน จัดของขวัญ 5 ชิ้นปีใหม่นี้ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมกองทุนรับงานไปทำที่บ้าน ลดเงินสมทบให้นายจ้างและผู้ประกันตน เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร คลอดบุตร อบรมความปลอดภัยในการทำงานฟรี 10,000 คน และฝึกอบรมออนไลน์ฟรี
วันที่23 ธันวาคม 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จัดแคมเปญ รักจากใจแรงงานไทยสุขใจถ้วนหน้า ดังนี้
- กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินของกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1-12 และงวดที่ 13 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา คิดอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยผู้รับงานไปทำที่บ้านรายบุคคลยื่นคำขอกู้ไม่เกิน 50,000 บาท รายกลุ่มบุคคลกู้ไม่เกิน 300,000 บาท กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 31 สิงหาคม 2564 และทำสัญญากับกรมการจัดหางานให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 กรอบวงเงิน 7,000,000 บาท
- การลดอัตราเงินสมทบให้กับนายจ้างและผู้ประกันตน โดยนำส่งในอัตราจากเดิมฝ่ายละร้อยละ 5 เป็นฝ่ายละร้อยละ 3 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือนายจ้างจำนวน 486,192 แห่ง และผู้ประกันตน จำนวน 12.7 ล้านคน ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้างและผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบลดลงรวมจำนวน 15,660 ล้านบาท
- การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานผ่านระบบ Online ฟรี พร้อมกันทั่วประเทศ หลักสูตรที่เปิดฝึกทักษะฝีมือ ได้แก่ การเขียนโปรแกรมประมวลผลภาพและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การออกแบบและตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม Photoshop การประยุกต์ใช้ Excel Advance การบริหารสินค้าคงคลัง การประยุกต์ใช้งาน Internet of Things (IOT) สำหรับการเกษตรเทคนิคการใช้ Excel Advance เพื่อจัดการฐานข้อมูล การสร้างช่อง YouTube for Marketing การขายสินค้าออนไลน์ การเขียนคอนเทนต์เพื่อเพิ่มยอดขาย และการสร้างอินโฟกราฟฟิก เพื่อนำเสนองานอย่างมืออาชีพ ฯลฯ โดยฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์ (Application Zoom Meeting)
- การฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการมีประสิทธิภาพ การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงานลดลงหรือไม่เกิดขึ้น โดยประสานหน่วยงานฝึกอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อจัดฝึกอบรมหลักสูตรความปลอดภัยในการทำงาน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายนายจ้าง/ลูกจ้าง โดยไม่เรียกเก็บค่าบริการช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564
- การเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร/คลอดบุตร สำหรับผู้ประกันตน
(1) การเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร จากเดิมเหมาจ่ายในอัตรา 600 บาท/เดือนต่อบุตร 1 คน เป็นเหมาจ่ายในอัตรา 800 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์จำนวน 1.362 ล้านคน เป็นเงิน 13,739 ล้านบาท/ปี
(2) การเพิ่มสิทธิกรณีคลอดบุตรและฝากครรภ์
– ค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายจากเดิมอัตรา 13,000 บาทต่อครั้ง เป็นเหมาจ่ายในอัตรา 15,000 บาทต่อครั้ง
– ค่าฝากครรภ์จากเดิม 3 ครั้งในอัตรา 1,000 บาท เป็น จำนวน 5 ครั้ง ในอัตรา 1,500 บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตร 293,073 คน/ปี เป็นเงิน 4,396 ล้านบาท กรณีฝากครรภ์ ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ 122,114 ครั้ง/ปี เป็นเงิน 36.6 ล้านบาท